วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ชีวิตสองเส้นทางของ...กมลา สุโกศล


กมลา สุโกศล’ ผู้หญิงวัย 60 กว่า เจ้าของเสียงร้องที่มีเอกลักษณ์กับเพลงไทยสากลสุดฮิต ‘live and learn’ เธอบอกว่า ทุกวันนี้เธอมีสองอาชีพนั่นก็คือ ‘นักธุรกิจ’ และ ‘นักร้อง’ ซึ่งเป็นสองบทบาทที่รักและมีความสุขที่ได้ทำ สองบทบาทนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร สีสันของชีวิตสองเส้นทางนี้สร้างความสนุก...สร้างความสุข และทำให้ชีวิตสวยงามอย่างไร เรื่องราวเหล่านี้ ได้ถูกบันทึกไว้... เพื่อรอการเปิดอ่าน...

ทราบว่า คุณกมลาเกิดมาในครอบครัวที่ทำธุรกิจ
ค่ะ ทำมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อ คุณพ่อทำหลายอย่างค่ะ ทำเครื่องไฟฟ้า ทำเครื่องเสียง...คุณพ่อจะชอบซื้อบริษัทซึ่งมันล้มเหลวมาไว้ ตอนท่านเสียก็มีอยู่สิบกว่าบริษัท ครึ่งหนึ่งทำเงินต่อได้ ที่เหลือไม่ได้เรื่อง พอคุณพ่อเสียชีวิตไปแล้วดิฉันก็ดูว่าตัวเองทำได้แค่ไหน ก็เอามาทำเฉพาะที่ทำได้แค่นั้น น้องสาวเอากิจการรถยนต์ไปทำ ดิฉันมาทำโรงแรม มี 3 โรงแรม ก็คือ โรงแรมสยามเบย์วิว โรงแรมสยามเบย์ชอว์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ที่พัทยา แล้วก็โรงแรมสยามซิตี กรุงเทพฯ

ตอนที่คุณกมลาอายุแค่สิบกว่าขวบก็ไปเรียนที่อังกฤษแล้ว
ค่ะ อยากไปอยู่ ดิ้นรนที่จะไป คิดว่ายังไงก็จะไปให้ได้ ดิฉันอยากเห็นโลกที่กว้างใหญ่ไพศาลเพราะรู้ว่าต้องมีอะไรให้เราเรียนรู้อีกเยอะ เมืองไทยเราสมัยก่อนทีวีก็ไม่มีดู ดิฉันชอบค้นคว้าค่ะ อยากรู้อยากเห็น เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอยู่

คุณใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศกี่ปีคะ
ยี่สิบกว่าปีค่ะ

อะไรทำให้คุณกมลากลับมาเมืองไทยคะ
ก็คุณพ่อไม่มีลูกชาย ไม่มีใครทำกิจการต่อ คุณพ่อก็ไปตื๊อ ๆ จนกลับมาจนได้ ...ตอนแรกคุณพ่อบอกให้ไปทำธุรกิจรถยนต์ ดิฉันก็ไม่รู้เรื่อง วันดีคืนดีคุณพ่อก็บอกไปสร้างโรงแรมให้ทีสิ ฉันไปซื้อที่ดินไว้ที่พัทยา ดิฉันก็ไปขวนขวายหาวิธีไปกู้เงินเอง ก็ไปสร้างโรงแรมสยามเบย์ชอว์ รีสอร์ท (ชื่อเดิม) เสร็จแล้วพ่อก็ไปซื้อที่บนชายหาดเดียวกันอีก ดิฉันก็สร้างโรงแรมสยามเบย์วิวขึ้นมา คุณพ่อก็ไปซื้อตึกด้านข้างโรงแรมสยามซิตีมาอีกตึกหนึ่ง คุณพ่อบอกแกไปทำให้ฉันทีสิ ปัจจุบันเป็นส่วนของโรงแรมของสยามซิตีอยู่ขณะนี้

มีโรงแรมที่ต้องดูแลถึง 3 โรงแรม คุณกมลาเรียนรู้งานได้จากไหนคะ
ทำแล้วก็จะรู้ไปเอง แรก ๆ ก็ถูลู่ถูกังไปก่อน ก็ live and learn นั่นแหละ แต่ก็เหนื่อย แต่พอทำไปแล้วประสบความสำเร็จก็มีความพอใจเกิดขึ้น จะสำเร็จได้ต้องมีลูกน้อง ดี ๆ มีฝ่ายบริหารเก่ง ๆ ทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป งานโรงแรมต้องมีทีมเวิร์คที่ดี ...แต่งานโรงแรมมันไม่มีจุดจบ มันไม่สมบูรณ์ ไปทุกอย่าง คุณต้องชอบเหนื่อย ต้องครีเอทีฟตลอดเวลาถึงจะทำงานโรงแรมได้

ความสนใจเรื่องการร้องเพลงมีมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ
ของแบบนี้มันเรียนไม่ได้นะ มันเป็นพรสวรรค์ที่ตัวเองมีมาตั้งแต่ยังเล็ก ๆ พอได้ยินเพลงก็จะร้องได้ทันที ได้ยินอะไรปั๊บก็เล่นเปียโนได้โดยที่ไม่เคยหัดเล่น พอคุณแม่เห็นว่ามีหัวดนตรีคุณแม่เลยจับไปเรียนเปียโนเพราะมัน ไม่มีอย่างอื่นเรียน ก็เรียนเพลงคลาสสิก แต่พอไปอังกฤษก็ไม่เล่นเพลงคลาสสิก เหนื่อย ขี้เกียจซ้อม เพราะเพลงคลาสสิกถ้าจะเล่นให้ดีต้องมีความพยายามจริง ๆ ก็เลยเล่น เพลงแจ๊สเพลงอะไรไป ตรงนี้เลยทำให้เราป๊อปปูล่าในโรงเรียนเพราะเราแต่งเพลงให้โรงเรียนด้วย

ตอนกลับมาเมืองไทยแล้ว ทราบว่าคุณเริ่มร้องเพลงจริง ๆ จัง ๆ ก็ตอนอายุได้ 40 ปีแล้ว
ใช่ค่ะ เรียกว่าเป็นการร้องที่เป็นเรื่องเป็นราว เพราะแหม่มอเมริกันชื่อ Caroline Queener บอกให้ช่วยเด็กโรคหัวใจหน่อย ยูช่วยทำประชาสัมพันธ์ให้ที ให้คนรู้จักมูลนิธิฯของเรา เขาบอกให้ทำอย่างตอนที่ดิฉันทำที่โรงเรียน ISB ของลูกน่ะ เป็นการแสดงของพ่อแม่ เขาบอกยูเก่งจะตาย ทำอย่างนั้นละ ทำคอนเสิร์ต คนจะได้รู้ว่ามูลนิธิเด็ก โรคหัวใจคืออะไร ก็เลยเริ่มต้นจากงานนั้น แล้วก็ไม่รู้ว่าเราเก่งแค่ไหน รู้แต่ว่าคนฟังบอกว่าเราเก่ง ก็เลยรู้สึกว่าเก่งกระมัง

คอนเสิร์ตทุกครั้งของคุณจะเพื่อการกุศลหมดเลย เป็นความตั้งใจส่วนตัวด้วยใช่ไหมคะ
ค่ะ อยากทำ ...ดิฉันมีความรู้สึกว่า เรามาได้ถึงแค่นี้ ลูกเต้า 4 คนก็ดีหมด หลาน ๆ ก็น่ารักน่าเอ็นดูหมด เราก็ต้องปันไปให้คนอื่นเขาบ้าง ถ้าดิฉันไม่ได้ให้กลุ้มใจตาย เงินนี่ตายไปเอาไปไม่ได้นะ เงินเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายก็จริง ใคร ๆ ก็ชอบ แต่มันก็ชั่วคราว ดิฉันรู้สึกว่าเรามีโชคมาถึงขนาดนี้ เราก็น่าจะแบ่งปันให้คนอื่นบ้าง ยิ่งคนที่ประสบภัยโดยไม่รู้ตัว ยิ่งควรจะช่วยเหลือ
รายได้จากเทป ซีดี ทุกอันที่ ขายได้ก็ให้หมดนะ อะไรที่ออกมาจากการร้องเพลงเป็นส่วนตัวดิฉันจะให้หมด ไม่เคยไว้เลย

คุณกมลาในฐานะเป็นแม่ มีวิธีเลี้ยงลูกอย่างไรให้ประสบความสำเร็จคะ
คนถามบ่อยนะ ก็ไม่รู้เหมือนกัน คิดว่าเขารู้ว่าเรารักเขานะ ไม่ว่าจะอะไรก็ตามแต่ เราจะยืนหยัดอยู่ตรงนั้นเพื่อเขา เขาต้องการเราเขาก็จะมาหาเรา ดิฉันจะเลี้ยงลูกแบบให้เขาเรียนรู้ด้วยตัวเอง จะปล่อย แต่ต้องให้เขารู้นะว่าเวลาเขาต้องการเราเราจะอยู่ตรงนั้น ไม่ใช่เขาเกิดต้องการเราแล้วเราหายไป...ดิฉันไม่มีการเรียกร้องว่าลูกต้องมาอยู่กับแม่อาทิตย์ละครั้งนะ ไม่มี เขาจะอิสระ ความรักตัวเดียวเลย ให้เขารู้ว่าเรารักเขา

คุณกมลามองชีวิตตัวเองอย่างไรคะ
มีวันนี้ กับก้าวไปข้างหน้าให้ดีที่สุด มองสิ่งที่ผ่านไปให้เป็นประสบการณ์ อย่ามัวแต่ไปพูด ถึงว่า “รู้อย่างนี้ ทำอย่างนั้นดีกว่า” คิดไปให้เสียใจเปล่า ๆ โลกนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบหรอก


ชีวิตไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบอย่างที่เธอว่า ทิ้งอดีตที่ผ่านมาให้เป็นประสบการณ์...ทำวันนี้และวันพรุ่งนี้ให้ดีที่สุดเพื่อที่วันหนึ่งคุณอาจจะได้พบความสุขอย่างกมลา สุโกศล... กับชีวิตสองเส้นทางที่เธอเลือกทำ

Source: http://women.sanook.com/work/worklife/life_09260.php

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น