วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2554

การฝังเข็มรักษาโรคภูมิแพ้

โรคภูมิแพ้คืออะไร
ในอากาศที่ล้อมรอบตัวเรานั้นนอกจากจะมีก๊าซออกซิเจนที่ใช้สำหรับหายใจเพื่อการดำรงชีวิตแล้ว ยังมีสารแปลกปลอมอื่นๆเจือปนอยู่มากมายอาทิเช่น ฝุ่นละออง,เชื้อโรค,สารเคมี หรือมูลตัวไรที่อาศัยอยู่ตามเครื่องนอนหมอนฟูก โดยปกติแล้ว เมื่อคนเราหายใจเอาสารแปลกปลอมเหล่านี้เข้าไป ร่างกายสามารถจะมีปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันกำจัดมันออกไปจากร่างกายได้โดยไม่มีอาการผิดปกติอะไรปรากฏออกมา
ส่วนผู้ป่วยโรคภูมิแพ้นั้น จะมีปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อสารแปลกปลอมเหล่านี้รุนแรงกว่าในคนปกติ ทำให้เกิดอาการผิดปกติต่างๆเช่น จามง่าย , คัดจมูก , น้ำมูกใส , มีเสมหะไหลลงคอ เหมือนกับเป็นหวัดเรื้อรัง
ในรายที่อาการไม่รุนแรง ผู้ป่วยจะมีอาการดังกล่าวเป็นครั้งคราวเมื่อสูดเอาสารบางอย่างเท่านั้นเข้าไป แต่ในรายที่เป็นรุนแรงมักจะมีอาการบ่อยแทบทุกวัน สารที่แพ้ก็มักจะมีหลายอย่างเช่น ฝุ่นละออง , มูลตัวไร , น้ำหอม ,ควันรถ เป็นต้น ผู้ป่วยมักต้องรับประทานยาแก้แพ้เป็นประจำแทบทุกวัน
นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ยังอาจมีอาการอื่นๆอีกด้วยเช่น หอบหืด ,ผื่นแพ้ผิวหนัง,แพ้อาหาร,แพ้ยา เป็นต้น

สาเหตุของโรคภูมิแพ้
โรคภูมิแพ้มีสาเหตุส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์ เด็กที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้จะมีโอกาสเป็นโรคนี้ประมาณ 16-28% ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอาการตั้งแต่อายุน้อยๆ ทำให้เกิดความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่เสียสมดุลย์ไป นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุมาจากระบบประสาทอัตโนมัติพาราซิมพาเตติกของผู้ป่วยมีการทำงานมากเกินไปอีกด้วย เมื่อมีสารแปลกปลอมมากระตุ้นก็จะเกิดปฏิกิริยาตอบสนองที่รุนแรงเกินไปแสดงออกมา

การรักษาโรคภูมิแพ้
ตามการแพทย์แผนปัจจุบันในขณะนี้ นอกจากให้ผู้ป่วยพยายามหลีกเลี่ยงสารที่ทราบว่าแพ้แล้ว การรักษาที่สำคัญได้แก่การให้ยาเพื่อลดอาการเนื่องจากภูมิแพ้ เช่นยาลดน้ำมูก , ยาลดการหลั่งสารฮีสตามีน นอกจากนี้ยังมีการนำสารที่แพ้มาทำเป็นยาฉีดเพื่อลดปฏิกิริยาภูมิแพ้ ซึ่งต้องฉีดต่อเนื่องเป็นเวลานานประมาณ 2-3 ปี

การรักษาด้วยการฝังเข็ม
การฝังเข็มนั้นสามารถใช้รักษาโรคภูมิแพ้ได้เช่นกัน ซึ่งมีผลการศึกษาทดลองรักษามากมาย ในต่างประเทศตลอดจนในประเทศไทย องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ก็ได้ประกาศรับรองผลการรักษาโรคนี้ด้วยการฝังเข็มมาแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522
แพทย์จะใช้เข็มเล็กๆปักจุดบริเวณรอบจมูกและแขนขา แล้วทำการกระตุ้นประมาณ 20 นาที โดยทั่วไปจะทำการรักษาสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ติดต่อกันประมาณ 10 ครั้ง ส่วนใหญ่แล้วเมื่อฝังเข็มไปประมาณ 5 ครั้งจะเห็นผลการรักษาได้อย่างชัดเจน โดยที่ผู้ป่วยจะจาม , คัดจมูกน้อยลง บางคนสามารถลดปริมาณยาที่รับประทานลงไปได้กระทั่งไม่ได้รับประทานยาเลยก็มี
การฝังเข็มรักษาโรคภูมิแพ้นั้น ไม่เพียงแต่สามารถบรรเทาอาการคัดจมูก ,จาม , ไอได้เท่านั้น ที่สำคัญกว่าก็คือ การฝังเข็มสามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงขึ้นสู่สภาพสมดุลตามปกติ ไม่มากหรือน้อยเกินไป ดังนั้นเมื่อหยุดฝังเข็มแล้วผู้ป่วยก็จะมีอาการภูมิแพ้เกิดซ้ำขึ้นมาน้อยมากหรือกระทั่งหายไปได้เลย ต่างจากการใช้ยา ซึ่งเมื่อหยุดยาแล้ว อาการทุกอย่างก็จะปรากฏออกมาอีกเหมือนเดิม
การรักษาโรคภูมิแพ้โดยการฝังเข็มนี้ ได้ผลในการรักษาประมาณ 90 % ในผู้ป่วยที่มีอายุน้อย เช่นระยะวัยรุ่นจะเห็นผลการรักษาดีมาก ตรงกันข้ามในผู้ป่วยที่มีอายุมากจะได้ผลน้อยกว่า ทั้งนี้อาจเป็นเพราะผู้สูงอายุถูกสารภูมิแพ้กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ผิดปกติมาเป็นเวลานานเรื้อรังกว่า และทำให้สภาพเยื่อบุจมูกเสื่อมไปมากกว่านั่นเอง

ตัวอย่างผู้ป่วย

1) คุณ ธ. นักศึกษา อายุ 19 ปี มีอาการโรคภูมิแพ้มาตั้งแต่เด็ก คัดจมูกจามบ่อยในเวลากลางคืนและรุ่งเช้าต้องรับประทานยาแก้แพ้และยาลดน้ำมูกเป็นประจำทุกวันนานประมาณ 10 กว่าปี ได้มาฝังเข็มรักษา หลังจากทำครั้งแรก อาการทุเลาลง
อย่างชัดเจน เมื่อทำครบ 7 ครั้ง อาการต่างๆหายเป็นปกติ

2) คุณ ย. ข้าราชการ อายุ 42 ปี มีอาการคัดจมูก จาม เป็นประจำทุกเช้า โดยเฉพาะเวลาโดน ฝุ่นละออง หรือถูกอากาศเย็น ต้องรับประทายยาแก้แพ้ และยาลดน้ำมูกในตอนก่อนนอนทุกคืน ติดต่อกันมานาน 20 ปี ได้รับการฝังเข็มรักษาโรคภูมิแพ้ติดต่อกันรวม 50 ครั้ง อาการต่างๆทุเลาหายไปหมด สามารถหยุดรับประทานยา โดยไม่มีอาการกำเริบเลยได้เกือบ 1 ปี หลังจากหยุดการรักษาแล้ว

3)คุณ บ. นักเรียน อายุ 14 ปี เป็นโรคภูมิแพ้ มานาน 4 ปีได้มารักษาด้วยการฝังเข็ม5ครั้ง อาการต่างๆทุเลาหายไปหมด สามารถหยุดรับประทานยาแก้แพ้และยาลดน้ำมูกได้หมดเช่นกัน

Source:http://www.yanhee.co.th/yhh/th/altn/thaiacupuncture/allergy.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น